สินค้าใหม่

PRIVÉ POD ประสบการณ์ใหม่แห่งการทำงาน

PRIVÉ POD คืออะไร?

ขอแนะนำ PRIVÉ POD ชุดบูธอะคูสติกใหม่ล่าสุดของเรา! ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของสำนักงานของคุณ บูธของเราเกิดมาเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สมบูรณ์แบบ เหมือนมี “ห้อง” พิเศษไว้ให้คุณ

ด้วยการออกแบบแบบแยกส่วน PRIVÉ POD สามารถปรับแต่งให้เข้ากับพื้นที่ของคุณและประกอบได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมง การป้องกันเสียงและการดูดซับเสียงที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันช่วยให้มั่นใจได้ว่าเสียงรบกวนและการรบกวนที่ไม่พึงประสงค์จะลดลงเหลือน้อยที่สุด

เพื่อให้มีพื้นที่ทำงานที่เงียบสงบและปราศจากเสียงรบกวน PRIVÉ POD มาพร้อมกับเบาะนั่งที่ถูกหลักสรีรศาสตร์ การระบายอากาศที่เพียงพอ และแสงไฟที่ปรับได้ เพื่อลดความเมื่อยล้าหรือไม่สบายจากการทำงานเป็นเวลานาน คุณจะรู้สึกสดชื่นและมีแรงบันดาลใจเมื่อคุณดำดิ่งลงสู่โครงการของคุณ โดยรู้ว่าคุณมีพื้นที่เฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลือกที่ปรับแต่งได้อย่างมากมายสำหรับบูธของเราช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำงานของคุณตามความต้องการของคุณ ไม่ว่าคุณจะชอบมุมสนทนาที่ผ่อนคลายหรือ “War-room” PRIVÉ POD ก็มีให้คุณ

ด้วยการลงทุนในบูธอะคูสติก PRIVÉ POD คุณไม่เพียงแต่ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของคุณ แต่ยังกำหนดวิธีการทำงานของคุณใหม่ สัมผัสพลังของ PRIVÉ POD และปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของคุณ บอกลาสำนักงานแบบเปิดที่มีเสียงดัง และสวัสดีกับพื้นที่ที่ช่วยให้คุณมีสมาธิ ทำงานร่วมกัน และเจริญเติบโต เตรียมพร้อมที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานของคุณและสัมผัสกับประสิทธิภาพและสมาธิในระดับใหม่ด้วย PRIVÉ POD

 

ทำไมสำนักงานของคุณต้องมี PRIVÉ POD?

เป้าหมายของเราคือการพัฒนา PRIVÉ POD ให้เป็นโซลูชันที่ครบวงจรสำหรับองค์กร ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องเสียงรบกวนและความเป็นส่วนตัวในสำนักงานยุคใหม่ แต่ยังให้ความสำคัญกับความสะดวกในการใช้งานและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม

เราเข้าใจดีว่าสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของพนักงาน สุขภาพโดยรวม และการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ PRIVÉ POD จึงถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ให้เป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อการทำงาน ช่วยลดสิ่งรบกวน และมอบความเป็นส่วนตัวตามต้องการ

นอกจากนี้ เรามุ่งมั่นสู่แนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ พร้อมทั้งเสริมฟังก์ชันการประหยัดพลังงาน การเลือกใช้ PRIVÉ POD ช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงพื้นที่ทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

01 เพิ่มความเป็นส่วนตัว (Enhance Privacy)

บูธอะคูสติกช่วยสร้างพื้นที่เฉพาะสำหรับการสนทนาอย่างเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความปลอดภัยของข้อมูล เช่น การเงิน การแพทย์ และกฎหมาย

02 เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร (Boost Communication)

วัสดุพิเศษที่ใช้ในการก่อสร้างบูธสามารถดูดซับเสียงรบกวน ลดเสียงสะท้อน และช่วยให้การสนทนา รวมถึงการประชุมทางโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลมีความชัดเจนขึ้น ส่งเสริมการสื่อสารและความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในสำนักงานที่มีบรรยากาศคึกคัก

03 เพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงาน (Improve Concentration)

โครงสร้างกันเสียงของบูธช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้พนักงานสามารถจดจ่อกับงานได้โดยไม่ถูกรบกวน ส่งผลให้การทำงานมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

04 ปรับใช้งานได้หลากหลาย (Versatility)

บูธอะคูสติกมีให้เลือกหลายขนาดเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ออกแบบให้เป็นโมดูลาร์ (Modular Design) ซึ่งสามารถปรับแต่ง ประกอบ และขยายได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ ล้อเลื่อนยังช่วยให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก รองรับการเปลี่ยนแปลงขององค์กรในอนาคต

05 เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Sustainability)

นอกจากใช้วัสดุที่ผ่านการรับรองด้านความยั่งยืนแล้ว บูธยังถูกออกแบบให้เป็นระบบโมดูลาร์ เพื่อลดของเสียที่เกิดจากการก่อสร้างแบบดั้งเดิม เช่น “งานเปียก” (Wet Work) ซึ่งทำให้เกิดฝุ่น คราบสกปรก และใช้เครื่องมือที่ส่งเสียงดัง การเลือกใช้บูธอะคูสติกจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการอัปเกรดสำนักงานให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ

06 ลงทุนครั้งเดียว ใช้ได้คุ้มค่า (Being an Asset)

บูธอะคูสติกไม่ได้เป็นเพียงค่าใช้จ่าย แต่เป็น สินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าให้กับองค์กร ด้วยคุณสมบัติที่สามารถถอดประกอบและเคลื่อนย้ายได้ ทำให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำงานได้ตามความจำเป็นโดยไม่ต้องลงทุนใหม่ นอกจากนี้ บูธยังสามารถนำไปขายต่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในอนาคต ช่วยให้สำนักงานมีความยืดหยุ่นและคุ้มค่ามากขึ้น

 


ระดับการลดเสียงพูดได้มากกว่า 30 เดซิเบล(ตามมาตรฐาน ISO 23351-1:2020)

ระดับการลดเสียงพูด: มากกว่า 30 เดซิเบล (เดซิเบลเป็นหน่วยวัดความดังของเสียง) หมายความว่า ผลิตภัณฑ์นี้สามารถลดระดับเสียงพูดลงได้มากกว่า 30 เดซิเบล ทำให้เสียงพูดเบาลงอย่างมาก และมาตรฐาน ISO 23351-1:2020: เป็นมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องกับการวัดและประเมินคุณลักษณะทางเสียงของผลิตภัณฑ์

 

การควบคุมสภาพแวดล้อม : ปรับแต่งประสบการณ์ของคุณ

เราได้พัฒนา ระบบควบคุมสภาพแวดล้อมอัจฉริยะ เพื่อให้คุณปรับแต่งพื้นที่ทำงานได้ตามต้องการ ด้วยแผงควบคุมแบบ Dimmer คุณสามารถ ควบคุมความเร็วพัดลม ความแรงและอุณหภูมิแสง ได้อย่างแม่นยำ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ ส่งเสริมสมาธิ เพิ่มประสิทธิภาพ และ ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล

ความสามารถในการปรับความเร็วพัดลม ช่วยให้ผู้ใช้รักษากระแสลมที่สะดวกสบายภายในบูธ ป้องกันความอับชื้น ไม่ว่าคุณจะชอบสายลมเบาๆ หรือการไหลเวียนของอากาศที่แรงกว่า คุณสามารถเลือกได้ตามใจชอบ คุณสมบัตินี้ไม่เพียงแต่สร้างบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์ แต่ยังมีส่วนช่วยในการรักษาสมาธิและalertตลอดวันทำงาน

ความแรงและอุณหภูมิแสงที่ปรับได้ ช่วยเพิ่มตัวเลือกการปรับแต่ง แสงที่เพียงพอมีความสำคัญต่อการลดอาการปวดตาและส่งเสริมสมาธิ ด้วยความสามารถในการควบคุมความเข้มของแสง ผู้ใช้สามารถสร้างสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างความสว่างและบรรยากาศที่เหมาะกับงานและความชอบเฉพาะ นอกจากนี้ การปรับอุณหภูมิแสงยังช่วยให้ผู้ใช้กำหนดอารมณ์ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นและสบาย หรือสภาพแวดล้อมที่เย็นกว่าและมีชีวิตชีวามากขึ้น

การผสมผสานเซ็นเซอร์อินฟราเรด (IR) เข้ากับการออกแบบบูธเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ทันทีที่ผู้ใช้ก้าวเข้าไปในบูธ เซ็นเซอร์ IR จะตรวจจับการมีอยู่ของพวกเขาและเปิดใช้งานระบบระบายอากาศและแสงสว่างโดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่จำเป็นต้องปรับด้วยตนเอง ประสบการณ์ที่ราบรื่นนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปในพื้นที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีการหยุดชะงักหรือล่าช้า เมื่อผู้ใช้ออกจากบูธ เซ็นเซอร์ IR จะตรวจจับการไม่มีอยู่ของพวกเขาและปิดไฟโดยอัตโนมัติและลดการระบายอากาศเพื่อประหยัดพลังงานภายในระยะเวลาที่กำหนด

ผู้ใช้ยังสามารถเปลี่ยนไปใช้โหมดแมนนวลผ่านปุ่มเปิดปิดเพื่อให้ไฟและพัดลมเปิดและปิดได้นานขึ้น คุณสมบัติประหยัดพลังงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีส่วนช่วยให้สถานที่ทำงานมีความยั่งยืนมากขึ้น แต่ยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าอีกด้วย

การระบายอากาศ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในออฟฟิศ

1. แรงดันอากาศสมดุล

เราใช้พัดลมสำหรับดูดอากาศเข้าและออก เพื่อรักษาระดับแรงดันอากาศให้คงที่เหมือนกับสภาพแวดล้อมภายนอก ซึ่งช่วยในการป้องกันเสียงและช่วยให้ผู้ใช้อยู่ห่างจากอาการ “หูอื้อ”

2. พัดลมแบบแรงเหวี่ยง

ปกติเสียงพัดลมจะดังขึ้นเมื่ออยู่ในบูธที่เงียบ เราจึงใช้พัดลมแบบแรงเหวี่ยงสำหรับการดูดอากาศเข้าแทน เพื่อให้การไหลของอากาศราบรื่นขึ้นที่ความเร็วต่ำ ทำให้เกิดเสียงรบกวนน้อยลง

3. การรีเฟรชอัตโนมัติ

ทุกๆ 30 นาที พัดลมจะเริ่มระบายอากาศโดยอัตโนมัติเป็นเวลา 5 นาที ซึ่งจะช่วยให้ท่อและบูธแห้ง มีกลิ่นหอมสดชื่น และพร้อมสำหรับผู้ใช้คนต่อไป

4. ท่อลมแบบอะคูสติก

เราใช้วัสดุดูดซับเสียงในท่อ เพื่อลดการแลกเปลี่ยนเสียงระหว่างภายในและภายนอกให้มากที่สุด

แสงสว่างแบบถนอมสายตา

เราใช้ OSRAM LED และเลนส์ปริซึมลดแสงสะท้อน แสงไฟให้ค่า CRI (ดัชนีการแสดงผลสี) ที่ 92 ซึ่งรับประกันสีที่สวยสมจริง ช่วยเพิ่มความแม่นยำของภาพภายในที่บูธ ด้วยคุณสมบัติการปล่อยแสงแบบปราศจากแสงกะพริบ ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา ในระหว่างชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน และมอบประสบการณ์แสงที่สะดวกสบาย และผ่อนคลาย ช่วยเพิ่มสมาธิและรักษาสุขภาพดวงตาของคุณ

ติดตั้งได้ภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

PRIVÉ POD ไซส์ S ของเรา สามารถติดตั้งได้ภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยทีมติดตั้งเพียงสองคน การออกแบบแบบโมดูลาร์ช่วยให้การติดตั้งทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดย ไม่ต้องตัดแต่ง ใช้สลักเกลียว หรือกาว และ ไม่มีเศษวัสดุเหลือทิ้ง ในระหว่างกระบวนการติดตั้ง รวมถึงมีการรีไซเคิลวัสดุบรรจุภัณฑ์ด้วยยิ่งไปกว่านั้น PRIVÉ POD ทั้งหมดสามารถ ย้ายตำแหน่ง ในอนาคตได้อย่างง่ายได้ 100%

สามารถ ขยายขนาดได้ง่ายๆ

นอกจากนี้ PRIVÉ POD ยังสามารถ ขยายขนาดได้ง่ายๆ เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย จะรวมบูธ 2 หลังหรือมากกว่านั้น เป็นบูธขนาดใหญ่ขึ้น สำหรับใช้ชั่วคราวก็ได้ โดยใช้ตัวเชื่อมพิเศษที่คุณสามารถสั่งซื้อชิ้นส่วนใหม่ เพื่อเปลี่ยนขนาดได้อีกด้วย ไม่ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง PRIVÉ POD ก็ พร้อมปรับตัว เพื่อรองรับงานใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มีให้เลือก 5 ขนาด เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ

 

 

ดาวน์โหลดแคตตาล็อก